สำหรับทางฝั่งยุโรปเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ต้องยกให้กับ แบล็คแจ็ค หรือที่คนไทยเรียกว่า เกมไพ่ 21 แต้ม เนื่องจากหลักที่จะชนะเกมนี้ได้ผู้เล่นต้องมีไพ่ในมือพอดีที่ 21 แต้ม หากใครเกินกว่านั้นจะนับว่าเป็นฝ่ายแพ้ทันที แต่ถ้าหากไม่มีใครทำได้ถึงต้องดูว่าแต้มของใครใกล้เคียงมากที่สุด นั่นเป็นกติกาพื้นฐานที่บอกเลยว่าเล่นไม่ยาก ทั้งนี้เกมดังกล่าวยังจำเป็นต้องใช้ความคิดและเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆอีกด้วย จึงนับเป็นเกมเดิมพันในตำนานที่เซียนพนันชอบสุด ๆ
เข้าใจกติกาของแบล็คแจ็คให้มากขึ้นกว่าเดิม
ดังที่บอกไปว่าเกมแบล็คแจ็ค หรือ เกมไพ่ 21 แต้มต้องเล่นเบื้องต้นอย่างไร แต่คราวนี้จะมาอธิบายถึงวิธีเล่นที่มีความละเอียดยิ่งกว่าเดิม
- เริ่มการแจกไพ่ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่คนละ 2 ใบ รอบวง คราวนี้เมื่อแต้มออกมาเท่าไหร่นักเดิมพันก็สามารถเลือกจั่วไพ่ที่ได้ตลอดเวลาจนกว่าจะครบ 21 แต้ม ทั้งนี้ต้องคำนวณดี ๆ ว่าแต้มในมือกับไพ่ที่จะออกมานั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะถ้าเกิน 21 แต้ม เมื่อไหร่ถือว่าแพ้ทันที
- ค่าของไพ่ในเกมแบล็คแจ็ค คือ A = 1, 11 ขึ้นอยู่กับไพ่ในมือที่มี, 2 – 10 มีค่าเท่ากับหน้าไพ่ตัวเอง, J Q K มีค่าเท่ากับ 10
- การเล่นแบล็คแจ็คจะมีสิ่งที่เรียกว่า “ระบบประกัน” อยู่ด้วย สำหรับประกันความเสี่ยงในกรณีที่ผู้เล่นมองว่าเกมนี้เจ้ามือมีโอกาสได้ 21 แต้ม โดยเงินประกันจะเท่ากับครึ่งจำนวนเต็มของเงินลงทุน กรณีที่เจ้ามือเปิดมาเป็น 21 แต้ม เกมจะเดินต่อไป แล้วถ้าเสมอนักเดิมพันก็จะได้เงินตนเองคืน
ทั้งนี้ยังมีการเดิมพันในแบบอื่น ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับนักเดิมพันว่าต้องการเล่นด้วยหรือไม่ เช่น Bet Behind คือ การเดิมพันกับคนอื่น ๆ, Colored Pair คือ เดิมพันว่าไพ่ 2 ใบแรกเมื่อเปิดออกมาจะเป็นไพ่คู่ เป็นต้น
การเล่นแบล็คแจ็คหรือเกมไพ่ 21 ไม่ใช่เกมที่มีความยุ่งยากอย่างที่คิด ใคร ๆ ก็สามารถสนุกไปกับการเดิมพันนี้ได้เพียงแค่ต้องเริ่มต้นเข้าใจกติกาพื้นฐานให้ดีเสียก่อน อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากฝากเอาไว้สำหรับมือใหม่คือ ต้องเล่นอย่างมีสติมากที่สุด บางครั้งยังอาจจำกติกาในบางข้อไม่ได้ก็ต้องทบทวนหรือท่องให้ขึ้นใจ เพื่อเวลาเล่นจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือเสียเงินโดยที่ตนเองมีโอกาสชนะอยู่ข้างหน้าเห็น ๆ ใครที่สนใจหรือมองว่าเป็นเกมที่หาเงินได้ง่ายก็ลองไปเล่นกันดู จะช่วยสร้างเงินในกระเป๋าให้กับคุณได้จริง ยิ่งเล่นเก่งยิ่งรวยเร็ว